ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรียนรู้จากต่างประเทศ วัดคุณภาพการศึกษา สู่ซัมเมอร์เเคมป์

4
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาทั่วโลก ในการเลือกศึกษาต่อ เนื่องจากเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการที่อยู่ไม่ห่างจากประเทศไทยมากนักและมีบรรยากาศที่เหมาะกับการเรียน ประกอบกับมาตรฐานทางการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ รูปแบบการศึกษาของออสเตรเลียกำหนดโดยรัฐบาลกลางของออสเตรเลียมีวัตถุประสงค์ ที่จะแสดงให้เห็นว่าระดับการศึกษาต่างๆมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาในการที่จะเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อศึกษาต่อ ในระดับชั้นเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในออสเตรเลีย ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียแบ่งเป็นระดับต่างๆ
ระบบการศึกษาต่อออสเตรเลีย แบ่งออกไว้เป็น 5 ส่วน ดังนี้
1. การศึกษาระดับอุดมศึกษา(มหาวิทยาลัย) เพื่อเตรียมความเป็นมืออาชีพ และพัฒนาความเป็นปัญญาชน
2. อาชีวศึกษาและการฝึกอบรม เพื่อฝึกอบรมให้นักศึกษามีความพร้อมในการเข้าทำงานในบริษัท และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
3. หลักสูตรการศึกษาพื้นฐานเพื่อเตรียมให้นักศึกษาต่างชาติมีความพร้อมในการศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในประเทศออสเตรเลีย
4. หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ELICOS) เพื่อเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาติเพื่อศึกษาต่อในหลักสูตรการศึกษาต่างๆ
5. มัธยมศึกษา และประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับเพื่อศึกษาต่อในสายสามัญศึกษา ระดับอุดมศึกษา หรืออาชีวศึกษา
ระดับอนุบาลหรือวัยก่อนเข้าเรียน (Pre-School)
เด็ก ๆ ในประเทศออสเตรเลียสามารถเข้าเรียนในระดับอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบเป็นต้นไป การศึกษาระดับนี้ไม่ได้เป็นการศึกษาภาคบังคับ หากแต่เน้นให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสติปัญญา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา
ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา 5การศึกษาภาคบังคับในประเทศออสเตรเลียกำหนดไว้สำหรับเด็กอายุระหว่าง 6-15 ปี การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในประเทศออสเตรเลียอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของแต่ละรัฐ ประเทศออสเตรเลียมีโรงเรียนที่มีคุณภาพสูงจำนวนมาก ทั้งที่เป็นโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชนและโรงเรียนที่ดำเนินการร่วมกับองค์กรศาสนา โรงเรียนของรัฐบาลจะเป็นประเภทไปกลับ (Day School) ส่วนโรงเรียนเอกชนจะมีทั้งโรงเรียนประจำ(Boarding School) และไป-กลับ นอกจากนี้โรงเรียนยังแบ่งเป็นประเภทโรงเรียนชายล้วน หรือหญิงล้วน และโรงเรียนสหศึกษา นักเรียนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุประมาณ 18 ปีหรือบางทีก็เรียกชั้นปีที่ 12) ทุกโรงเรียนจัดสอนวิชาแกนคล้าย ๆ กันและอาจเรียนเป็นพิเศษในวิชาอื่นๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ในการเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย นักเรียนต้องสอบและวัดผลการเรียนในชั้นปีที่ 11 และ 12 เพื่อให้ได้รับประกาศนียบัตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เป็นต้นไป สำหรับระดับประถมศึกษาโรงเรียนจะพิจารณานักเรียนเป็นรายบุคคลไป นักเรียนต่างชาติที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รัฐบาลออสเตรเลียกำหนดให้ต้องมีผู้ปกครอง (Guardian) คอยดูแล ซึ่งควรเป็นบิดาหรือมารดา หรือญาติพี่น้องที่อยู่ในออสเตรเลีย ถ้าไม่มีผู้ปกครองทางโรงเรียนจะจัดหาให้โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณสัปดาห์ละ 30 เหรียญออสเตรเลีย ถ้าเป็นนักเรียนประจำก็จะมีอาจารย์ในโรงเรียนเป็นผู้ดูแล
โรงเรียนจะมีการแบ่งระดับการศึกษาดังต่อไปนี้ (ซึ่งแต่ละรัฐอาจมีการแบ่งที่แตกต่างกัน)
– ประถมศึกษา (Primary School) คือชั้นปีที่ 1-6 หรือ 7
– มัธยมศึกษา (Secondary School) คือชั้นปีที่ 7 หรือ 8-12
– มัธยมศึกษาตอนต้น (Junior Colleges) คือชั้นปีที่ 7 หรือ 8-10
– มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Colleges) คือชั้นปีที่ 11 และ ปีที่ 12โดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะรับนักเรียนเข้าเรียนต่อในชั้นเรียนตามอายุที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามระดับการศึกษาที่นักเรียนต่างชาติจบมา ตัวอย่างเช่น นักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากประเทศไทยสามารถเรียนต่อในชั้นปีที่ 10 ของออสเตรเลียได้เลย แต่อาจมีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องผลการเรียนและความสามารถด้านภาษาอังกฤษ รายวิชาที่บรรจุในหลักสูตรสำหรับมัธยมศึกษาโดยทั่วไปได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปศึกษา (ดนตรี ศิลปะ งานประดิษฐ์และการละคร) และสุขศึกษา (รวมถึงพลศึกษาและการพัฒนาบุคลิกภาพ)

เรียนซัมเมอร์สิงคโปร์ถือเป็นอีกเเนวทางหนึ่งในการที่จะพัฒนาทักษะเเละสกิลของเด็กๆในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากเจ้าของภาษาโดยตรง
อ่านรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาในช่วงซัมเมอร์สิงคโปร์   ได้ที่  http://eest-education.com  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องเตียงเป็นเรื่องที่เขากำหนด เตียงผู้ป่วยมาตรฐานที่คุรุเเพทย์กำหนด

 โดยทั้วไปเเล้วคนเราไม่ค่อยจะให้เรื่องความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องเตียงผู้ป่วยมากหนัก เพราะเป็นเรื่องของทางโรงพยาบาลที่เขาได้กำหนดเรื่องเตียงให้เราอยู่เเล้วว่าเตียงผู้ป่วยเเต่ละเตียงนั้นเขาต้องมีมาตรฐานเท่าไหร่    อย่างบทความนี้ผมจะเขียนว่ามาตรฐานที่ทางโรงพยาบาลนั้นกำหนดจะต้องเป็นลักษณะเตียงอย่างไร   ซึ่งทางคุรุภัณฑ์ทางการเเพทย์นั้นได้กำหนดว่าเตียงผู้ป่วยดังนี้   ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย (Safety) เตียงผู้ป่วยจัดเป็นครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้ผู้ป่วยฟักฟื้น และเคลื่นย้ายผู้ป่วยระหว่างการรักษา ซึ่งหากมีข้อบกพร่องอาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยได้ ในปี 2002  มีรายงานจานวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่มีอวัยวะติดในส่วนประกอบของเตียงของประเทศสหรัฐอเมริกามีสูงถึง 116 ราย จึงต้องพิจารณาประเด็นหลักด้านความปลอดภัย 3 ประเด็น ได้แก่ ความแข็งแรงของเตียง (วัสดุที่ใช้ผลิตและโครงสร้างของเตียง) ขนาดที่เหมาะสมกับผู้ป่วย และโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุกับร่างกายผู้ป่วย  (อาทิ การตกเตียง หรือมีอวัยวะติดในช่องว่างของเตียง) ดังนั้น การออกแบบเตียงจึงพ...

เคล็ดลับดีๆสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกของที่ระลึกมอบให้คนที่เรานับถือ

         อีกไม่กี่วันข้างหน้าวันสงกรานต์ก็จะมาถึงแล้ว แน่นอนสำหรับคนที่ทำงานที่ กทม   น่าจะได้กลับบ้านเยี่ยมบ้านหลายต่อหลายคนอย่างแน่นอน   ถนนที่ กทม น่าจะโล่งเด็กแว้นส์นักบิดน่าจะยิ้มร่าอย่างแน่นอน กลับกันสำหรับคนที่ต้องการกลับบ้านคงจะกลับบ้านแบบมือเปล่าคงต้องอายที่บ้านอย่างแน่นอน อย่างน้อยต้องซื้ออะไรเป็นของฝากไม่ว่าจะเป็นครอบครัวพ่อแม่หรือแม้กระทั่งคนที่เรานับถืออย่างครูบาอาจารย์เพราะวันสงกรานต์ถือเป็นวันที่สำคัญตามประเพณีคนไทยเรา          วันนี้เราจะมากล่าวถึงการซื้อของฝากที่เป็น ของที่ระลึกงานเกษียณ หรือ ของที่ระลึกไทย เพื่อมอบให้คนทางบ้านในวันดังกล่าว    อย่างแรกเลย การเลือกของฝากที่เป็นของที่ระลึกที่เป็นของไทยเพื่อเป็นของที่ระลึกให้กับคนในครอบครัวนั้น   อย่างน้อยผู้เขียนเองมองว่าควรที่จะเป็นของที่ระลึกที่เป็นแบบไทยๆ   อาจจะเป็นกรอบรูปรัชกาลที่ 9   ทั้งนี้มันสื่อถึงประเพณีของความเป็นไทยเราอย่างเด่นชัดเลย   ซึ่งการเลือกของที่ระลึกไทยเหล่านี้หากเราไม่รู้ว่าจะซื้อที่ไหนแล้ว ...

จดทะเบียนบริษัทด้วยตนเองต้องจดอย่างไร

 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการ จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี ในการดำเนินการจัดตั้งบริษัทจำกัดจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง โดยเริ่มจากการรวบรวมผู้ก่อการตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เข้าชื่อร่วมกันจัดทำหนังสือบริคณห์สนธิ หลังจากนั้นผู้เริ่มก่อการมีการจัดให้ผู้เข้าจองซื้อหุ้นจนครบตราจำนวนหุ้น จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี จนครบตามจำนวนหุ้น จัดประชุมจัดตั้งบริษัทโดยมีการส่งหนังสือเรียนเชิญประชุมให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า 7 วัน ก่อนวันประชุม จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี ทำการแต่งตั้งกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทในการดำเนินกิจกรรมของบริษัท เรียกชำระค่าหุ้นต่อผู้ถือหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25% ของมูลค่าหุ้น หลังจากนั้นจะต้องดำเนินการยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน 3 เดือน หลังจากการประชุมจัดตั้งบริษัท ถือเป็นอันเสร็จสิ้นข้อมูลในการ จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี คืออะไร จำเป็นหรือไม่ การ จดทะเบียนบริษัท ผู้สอบบัญชี นั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สำหรับเรื่องนี้ท่านผู้ประกอบการหลายๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าในการจดทะเบียนบริษัทนั้นจะต้องมีการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปีไว้ด้วยโดยเป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง...